Research Reveals Hybrid Multicloud is the Ideal IT model, but the Financial Services Industry is Slower to Adopt
Nutanix (NASDAQ: NTNX), a leader in hybrid multicloud computing, announced the financial services findings of its global 2022 Enterprise Cloud Index (ECI) survey and research report, which measures enterprise progress with cloud adoption in the industry. The research showed that fewer financial services organizations have adopted multicloud than any other industry surveyed, trailing the global average by 10%. However, adoption is expected to nearly double from 26% to 56% in the next three years, in line with the global trend of evolving to a multicloud IT infrastructure that spans a mix of private and public clouds.
Among financial services ECI respondents, 31% are still operating non-cloud-enabled three-tier datacenters as their only IT infrastructure. They also reported having the lowest deployment of all industries surveyed in public cloud usage, with 59% using no public cloud services compared to 47% globally, likely due to substantial existing legacy investments in applications and the highly regulated nature of the industry. The complexity of managing across cloud borders remains a major challenge for financial services organizations, with 84% of respondents agreeing that success requires simpler management across multicloud infrastructures, and 50% citing security concerns as a challenge to the multicloud model. To address top challenges related to security, interoperability, and data integration, 82% agree that a hybrid multicloud model, an IT operating model with multiple clouds both private and public with interoperability between, is ideal.
“While the financial services industry appears to be in the early phases of deployment, the evolution to an interoperable multicloud IT infrastructure that spans a mix of private and public clouds is underway,” said Anand Akela, VP of Product and Solutions Marketing at Nutanix. “As information security and operational resiliency remain front and center for financial services organizations, they must look to hybrid multicloud solutions with integrated manageability and security, and the ability to quickly move apps among cloud infrastructures cost-effectively.”
Financial services survey respondents were asked about their current cloud challenges, how they’re running business and mission-critical applications now, and where they plan to run them in the future. Respondents were also asked about the impact of the pandemic on recent, current, and future IT infrastructure decisions and how IT strategy and priorities may change because of it. Key findings from this year’s report include:
- Financial services organizations face multicloud challenges, including security (50%), integrating data across clouds (46%), and performance challenges with network overlays (43%). Given that nearly 78% cited the lack of some IT skills to meet current business demands, simplifying operations is likely to be a key focus in the year ahead. However, IT leaders are realizing that there is no one-size-fits-all approach to the cloud, making hybrid multicloud ideal according to the majority of respondents (82%). This model will help address some of the key challenges of multicloud deployments by providing a unified cloud environment on which security and data governance policies can be applied uniformly.
- Application mobility is top of mind. Nearly all financial services respondents (98%) have moved one or more applications to a new IT environment over the last 12 months, likely from traditional datacenters to private clouds given the industry’s relatively low multicloud and public cloud penetration. Faster app development (43%) was most often cited as the reason for the move, followed closely by security (42%), and integrating with cloud-native services (40%). Additionally, with a large majority (83%) agreeing that moving applications to a new environment can be time-consuming and costly, it’s expected that the adoption of containers will rise in step with multicloud deployments to enable apps to run and move nearly anywhere quickly and easily. Among financial services respondents, 86% said that containers will be important to their organizations within the next year.
- Top financial services IT priorities for the next 12 to 18 months include improving security posture (54%), improving multicloud management (49%), and developing and/or implementing cloud-native technologies (47%). When asked what their organizations had done differently because of the pandemic, 70% said they had increased spending to strengthen their security posture, 64% spent more on increasing AI-based self-service automation, and 64% invested in infrastructure upgrades.
For the fourth consecutive year, Vanson Bourne conducted research on behalf of Nutanix, surveying 1,700 IT decision-makers around the world in August and September 2021. This report is supplemental to the global Fourth Annual Enterprise Cloud Index master report and focuses on cloud deployment and planning trends in the financial services industry, based on the responses of 250 IT professionals in banks and insurance companies across the globe. It compares the cloud plans, priorities, and experiences of these organizations to other industries and the global response base overall.
To learn more about the report and findings, please download the full Nutanix Enterprise Cloud Index, here.
ผลสำรวจพบว่าไฮบริดมัลติคลาวด์คือรูปแบบไอทีที่เหมาะสมที่สุด และธุรกิจบริการด้านการเงินมีการนำไปใช้อย่างค่อยเป็นค่อยไป
นูทานิคซ์ (NASDAQ: NTNX) ผู้นำด้านไฮบริดมัลติคลาวด์คอมพิวติ้งเปิดเผยข้อมูลผลสำรวจเกี่ยวกับองค์กรด้านการเงินการธนาคารทั่วโลก จากรายงานดัชนีคลาวด์ระดับองค์กรประจำปี 2565 (2022 Enterprise Cloud Index – ECI) โดยรายงานดังกล่าวมุ่งตรวจสอบความคืบหน้าขององค์กรต่าง ๆ ในการนำเทคโนโลยีคลาวด์ไปใช้ในภาคอุตสาหกรรม ผลสำรวจชี้ว่า องค์กรผู้ให้บริการด้านการเงินทั่วโลกใช้มัลติคลาวด์น้อยกว่ากลุ่มอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่ทำการสำรวจโดยต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ราว 10% อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีการนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้เพิ่มขึ้น เกือบสองเท่าจาก 26% เป็น 56% ในอีกสามปีข้างหน้า ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มทั่วโลกที่มีการพัฒนาไปสู่โครงสร้างพื้นฐานไอที แบบมัลติคลาวด์ ซึ่งครอบคลุมการใช้งานผสมผสานกันทั้งไพรเวท และพับลิคคลาวด์
ผลสำรวจพบว่า 31% ของผู้ตอบแบบสำรวจที่เป็นผู้ให้บริการด้านการเงิน ยังคงใช้ดาต้าเซ็นเตอร์แบบดั้งเดิม (three-tier) เป็นโครงสร้างพื้นฐานไอทีเพียงอย่างเดียวโดยไม่ได้ใช้คลาวด์ และมีการใช้พับลิคคลาวด์ต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นทั้งหมดที่ทำการสำรวจเกี่ยวกับการใช้พับลิคคลาวด์โดย 59% ไม่ได้ใช้บริการพับลิคคลาวด์ เปรียบเที่ยบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 47% สาเหตุหลักเนื่องจากได้มีการลงทุนจำนวนมากไปกับแอปพลิเคชันรุ่นเก่าที่ยังใช้งานอยู่ และเป็นภาคอุตสาหกรรมที่มีกฎระเบียบที่เข้มงวดมาก ความยุ่งยากซับซ้อนในการบริหารจัดการระบบคลาวด์ประเภทต่าง ๆ ยังคงเป็นความท้าทายใหญ่ของผู้ให้บริการด้านการเงิน โดยผู้ตอบแบบสำรวจ 84% เห็นด้วยว่าความสำเร็จขึ้นอยู่กับการจัดการโครงสร้างพื้นฐานมัลติคลาวด์ที่ง่ายขึ้น ขณะที่ 50% ระบุว่าประเด็นเรื่องความปลอดภัยคือความท้าทายประการหนึ่งของการใช้มัลติคลาวด์ สำหรับการแก้ไขความท้าทายต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องของความปลอดภัยความสามารถในการทำงานร่วมกัน และการบูรณาการข้อมูลนั้น ผู้ตอบแบบสำรวจ 82% เห็นพ้องกันว่าไฮบริด มัลติคลาวด์ เหมาะสมที่สุดเพราะเป็นรูปแบบการดำเนินงานด้านไอทีที่สามารถใช้งานคลาวด์หลายระบบหลายประเภท ทั้งไพรเวทและพับลิคคลาวด์ ที่สามารถแลกเปลี่ยนใช้ข้อมูล และทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อานันท์ อาเคลา รองประธานฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์และโซลูชันของนูทานิคซ์ กล่าวว่า “แม้ภาคอุตสาหกรรมด้านการเงินจะอยู่ในช่วงระยะแรกของการใช้คลาวด์ แต่ก็กำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่การใช้โครงสร้างพื้นฐานไอทีแบบมัลติคลาวด์ที่ทั้งไพรเวท และพับลิคคลาวด์สามารถทำงานร่วมกันได้การที่ความปลอดภัยของข้อมูล และความยืดหยุ่นในการดำเนินงานมีความสำคัญอย่างมากต่อผู้ให้บริการด้านการเงิน องค์กรเหล่านี้จึงจำเป็นที่จะต้องนำโซลูชันไฮบริดมัลติคลาวด์มาใช้ โซลูชันไฮบริดคลาวด์ช่วยให้องค์กรสามารถบูรณาการการบริหารจัดการ และระบบความปลอดภัยได้แบบรวมศูนย์ ทั้งยังรองรับการเคลื่อนย้ายแอปพลิเคชันไปใช้บนโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่าย”
การสำรวจนี้ยังได้ตั้งคำถามต่อผู้ตอบแบบสำรวจที่อยู่ในอุตสาหกรรมด้านการเงินเกี่ยวกับความท้าทายในปัจจุบันในเรื่องของการใช้คลาวด์, วิธีการใช้งานแอปพลิเคชันทางธุรกิจและแอปฯ ที่มีความสำคัญขององค์กร รวมถึงองค์กรได้วางแผนว่าจะวางและใช้งานแอปพลิเคชันเหล่านั้นบนระบบใดในอนาคต นอกจากนี้ ยังมีการสอบถามเกี่ยวกับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาด ที่มีต่อการตัดสินใจในการใช้โครงสร้างพื้นฐานไอทีทั้งที่เพิ่งผ่านมาในปัจจุบัน และในอนาคต รวมถึงประเด็นที่ว่ากลยุทธ์และภารกิจสำคัญด้านไอทีอาจเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรสืบเนื่องจากสถานการณ์ดังกล่าว ตัวเลขสำคัญจากผลสำรวจดังกล่าวมีดังนี้
- ความท้าทายในการใช้มัลติคลาวด์ที่ธุรกิจบริการด้านการเงินพบ เช่น ความปลอดภัย (50%), การบูรณาการข้อมูลบนระบบคลาวด์ต่าง ๆ (46%) และความท้าทายเรื่องประสิทธิภาพเนื่องจากการซ้อนทับกันของเครือข่าย (43%) ผู้ตอบแบบสำรวจเกือบ 78% ระบุถึงปัญหาการขาดแคลนทักษะด้านไอทีที่สามารถตอบสนองความต้องการของธุรกิจในปัจจุบัน การลดความซับซ้อนในการทำงานจึงน่าจะเป็นจุดที่องค์กรต้องให้ความสำคัญในปีหน้า อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารฝ่ายไอทีเริ่มตระหนักว่าไม่มีแนวทางแบบครอบจักรวาลที่ใช้ได้กับทุกกรณีในการใช้คลาวด์ ดังนั้นผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่ (82%) จึงเห็นว่าไฮบริดมัลติคลาวด์เป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด ไฮบริดมัลติคลาวด์ จะช่วยแก้ไขความท้าทายที่สำคัญในการใช้มัลติคลาวด์ด้วยคุณสมบัติที่มอบสภาพแวดล้อมคลาวด์รวมศูนย์เป็นหนึ่งเดียว ซึ่งสามารถใช้ระบบความปลอดภัย และการกำกับดูแลข้อมูลในรูปแบบเดียวกันได้ทั้งหมด
- ความสามารถในการเคลื่อนย้ายแอปพลิเคชันเป็นเรื่องจำเป็น ผู้ตอบแบบสำรวจจากภาคธุรกิจบริการด้านการเงินเกือบทั้งหมด (98%) ได้ย้ายแอปพลิเคชันอย่างน้อยหนึ่งแอปฯ ไปยังสภาพแวดล้อม ไอทีใหม่ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา โดยหลัก ๆ แล้วเป็นการย้ายจากดาต้าเซ็นเตอร์รุ่นเก่าไปยังไพรเวทคลาวด์ เนื่องจากในภาคธุรกิจนี้ ความแพร่หลายของการใช้มัลติคลาวด์และพับลิคคลาวด์อยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่ระบุว่าการพัฒนาแอปฯ ได้รวดเร็ว กว่า (43%) เป็นเหตุผลสำคัญของการย้ายแพลตฟอร์ม รองลงมาคือเรื่องของความปลอดภัย (42%) และการบูรณาการเข้ากับบริการคลาวด์เนทีฟ (40%) นอกจากนี้ ส่วนใหญ่ (83%) มีความเห็นว่าการย้ายแอปพลิเคชันไปยังสภาพแวดล้อมใหม่อาจเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายจำนวนมากดังนั้น จึงคาดว่าจะมีการปรับใช้คอนเทนเนอร์เพิ่มมากขึ้น ควบคู่ไปกับการติดตั้งใช้งานมัลติคลาวด์เพื่อให้สามารถรันและเคลื่อนย้ายแอปฯ ต่าง ๆ ได้เกือบทุกที่อย่างง่ายดาย รวดเร็ว โดย 86% ของผู้ตอบแบบสำรวจจากภาคธุรกิจบริการด้านการเงินระบุว่า คอนเทนเนอร์จะมีความสำคัญต่อองค์กรของตนในช่วงปีหน้า
- งานด้านไอทีที่ธุรกิจบริการด้านการเงินจัดลำดับความสำคัญในช่วง 12 ถึง 18 เดือนข้างหน้า ได้แก่ การเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัย (54%), การเพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริหารจัดการมัลติคลาวด์ (49%) และการพัฒนาและ/หรือนำเทคโนโลยีแบบคลาวด์เนทีฟมาใช้ (47%) ต่อคำถามที่ว่าองค์กรเหล่านี้จะดำเนินการอะไรบ้าง ที่ไม่เหมือนเดิมเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาด ผู้ตอบแบบสำรวจในธุรกิจด้านนี้ 70% ระบุว่ามีการใช้จ่ายเพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านความปลอดภัยเพิ่มขึ้น, 64% ใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในเรื่องของการเพิ่มระบบอัตโนมัติสำหรับการบริการตนเองโดยอาศัย AI และ 64% ลงทุนในด้านการอัพเกรดโครงสร้างพื้นฐาน
สำหรับประเทศไทย ธุรกิจในอุตสาหกรรมการเงินเป็นอุตสาหกรรมแรก ๆ ที่เริ่มการทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ดิจิทัล และคลาวด์เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ได้รับความสนใจสูงมากตั้งแต่ก่อนการระบาดของโควิด-19 เพื่อรักษาลูกค้าและแข่งขันกับฟินเทค ในช่วงการแพร่ระบาด มีการนำคลาวด์มาใช้ควบคู่กับไพรเวทคลาวด์ และระบบที่อยู่ภายในองค์กรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยการตัดสินใจในเวลาสั้น ๆ เพื่อให้บริการลูกค้าที่ต้องปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัลอย่างกระทันหัน และทำธุรกรรมผ่านออนไลน์ที่ยืนยันด้วยข้อมูลจาก Payment Data Indicator ประจำเดือนเมษายน 2565 ของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ระบุว่า การทำธุรกรรม e-payment ในเดือนเมษายน 2565 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเฉลี่ยที่ 348 รายการ/คน/ปี คลาวด์จึงเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้รองรับความต้องการดังกล่าวและรองรับแอปพลิเคชัน ดาต้า กรอบการทำงานด้านความปลอดภัยและอื่น ๆ และเป็นที่คาดว่าธุรกิจการเงินไทยจะใช้ไฮบริด มัลติคลาวด์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกับแนวโน้มทั่วโลก
นับเป็นปีที่สี่ติดต่อกันที่แวนสัน บอร์น (Vanson Bourne) ได้ดำเนินการสำรวจในนามของนูทานิคซ์ โดยสำรวจความคิดเห็นของผู้มีอำนาจในการตัดสินใจด้านไอที 1,700 คนทั่วโลกในช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายน 2564 รายงานฉบับนี้เป็นเอกสารเพิ่มเติมจากรายงานหลัก Enterprise Cloud Index ประจำปี ฉบับที่ 4 โดยมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีคลาวด์ และแนวโน้มการวางแผนในภาคธุรกิจบริการด้านการเงินโดยอ้างอิงคำตอบของบุคลากรฝ่ายไอที 250 คนที่ทำงานอยู่ในธนาคารและบริษัทประกันทั่วโลก และมีการเปรียบเทียบแผนงานด้านคลาวด์ ภารกิจสำคัญ และประสบการณ์ขององค์กรเหล่านี้กับภาคธุรกิจอื่น ๆ รวมถึงฐานคำตอบโดยรวมในระดับโลก
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายงานและผลการสำรวจ สามารถดาวน์โหลดรายงาน Enterprise Cloud Index ของนูทานิคซ์ฉบับสมบูรณ์ได้ที่นี่